หมายเลข 9 ไม่ได้เกี่ยวกับหมายเลขกับความหมายแห่งดวงดาว หรือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิดขึ้น แต่เป็นเรื่องของหมายเลขที่เป็นเพียงธรรมเนียมหรือประเพณีการเล่นฟุตบอลสมัยก่อน แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องราวสุดคลาสสิก แม้ว่าในปัจจุบันธรรมเนียมเหล่านี้ก็ได้ถูกเปลี่ยนแปลงตามการเวลา หรือความเชื่อกับการชื่นชอบที่แตกต่างกันไป หรือ การย้ายทีมแต่ว่าหมายเลขเสื้อดันไปซ้ำกัน ซึ่งในอดีตหมายเลข 9 มักจะเป็นหมายเลขของตำแหน่งหน้าเป้า หรือ กองหน้าธรรมชาติ ที่มีหน้าที่ในการผลิตประตู ถ้าหากนึกถึงในสมัยอดีตศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ที่มักจะเป็นที่กล่าวถึงอยู่บ่อยๆ คือ โรนัลโด (บราซิล), กาเบรียล บาติสตูต้า, อลัน เชียร์เรอร์, รุด ฟาน นิสเตอรอย, ฟีลิปโป อินซากี, ตอเรส หรือถ้าหากมองมาในยัคปัจจุบันจะมองเห็น โรเมลู ลูคากู หรือ โรแบร์โต ฟิร์มิโน
ตำแหน่งของหมายเลข เบอร์เสื้อนักฟุตบอล ตัวจริง 11 คนแรก
- หมายเลข 1 – ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู
- หมายเลข 2 – ตำแหน่ง กองหลัง แบ็คขวา
- หมายเลข 3 – ตำแหน่ง กองหลัง แบ็คซ้าย
- หมายเลข 4 – ตำแหน่ง กองหลังตัวกลาง (เซ็นเตอร์แบ็ค)
- หมายเลข 5 – ตำแหน่ง กองหลังตัวกลาง (เซ็นเตอร์แบ็ค)
- หมายเลข 6 – ตำแหน่ง กองกลางตัวรับ
- หมายเลข 7 – ตำแหน่ง ปีก
- หมายเลข 8 – ตำแหน่ง กองกลางตัวรับ หรือ กองกลางตัวรุก (แล้วแต่ระบบการเล่น)
- หมายเลข 9 – ตำแหน่ง กองหน้า ตัวเป้า
- หมายเลข 10 – ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก
- หมายเลข 11 – ตำแหน่ง ปีก
หมายเลข 1 – 11 ข้างต้นนี้ เป็นภาพกว้างๆ ของหมายเลขเสื้อ นักฟุตบอลโดยทั่วไป ในการใช้งานจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมของแต่ละทีมจุดกำเนิดที่แท้จริงของ ดาวเตะหมายเลข 9 เกิดจากการให้ 11 ผู้เล่นในสนาม ใช้หมายเลข 1-11 ในการจำแยกผู้เล่นคนต่างๆ
หลังจากนั้นการแพร่หลายของการใช้เบอร์เสื้อของการเล่นฟุตบอล เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นไปทั่วโลก เพราะจะได้จดจำนักเตะได้ง่ายมากขึ้นจากการสังเกตุเบอร์ที่หลังของนักเตะ และ สื่อออกถึงแผนการเล่นได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นจะมีพัฒนาการทางด้านความคิด และ วิวัฒนาการต่างๆที่ส่งผลต่อการพัฒนาฟุตบอล เช่นแผนการเล่นเพื่อที่สามารถเลือกนักเตะในการใช้งานตามแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดมิติใหม่ของแต่ละยุคสมัย
ถึงแม้ว่ายุคสมัยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่บทบาทเกมรุกที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าหมายเลขที่ยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ หมายเลข 9 ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ได้รับความนิยมอย่าง 4-4-2 ที่ใช้กองหน้าคู่ได้แก่หมายเลข 9 และ หมายเลข 10 ที่เป็นแผนการเล่นของทีมส่วนใหญ่ในอังกฤษ ถ้าหากเป็นของบราซิลก็จะมีการใช้ผู้เล่นในเกมรุกมากกว่า คือ 4-2-4 ที่จะขยับเอาผู้เล่นในตำแหน่งแดนกลางขึ้นมาสูงกว่าปกติ การเป็นแดนหน้าไป โดยที่จะให้หมายเลข 9 และ หมายเลข 11 เป็นคู่หูกองหน้า และ หมายเลข 7 และ หมายเลข 10 เป็นผู้เล่นเกมรุกสนับสนุน หรือ ในส่วนแผนการอื่นๆอย่าง 5-2-3, 3-4-3 หรือหากเป็นแบบแผนในปัจจุบัน 4-2-1-2-1 บทบาทตัวรุกของทุกระบบตำแหน่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ กองหน้าที่ใส่หมายเลข 9
ปัจจุบันยุคสมัยที่ไม่มีหมายเลขประจำตัวเหมือนกับสมัยก่อนหน้านี้อย่างทุกวันที่จะสร้างภาพจำให้กับนักเตะแต่ละราย กลับมีการมโนภาพนำเอาหมายเลขลงไปทับซ้อนกับกองหน้าที่มีชื่อในระดับโลก ซึ่งในอดีตนักเตะหมายเลข 9 จะเป็นตำแหน่งนักเตะ มาร์โก แวน บาร์เท่น, อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน หรือ เอียนรัช และ หมายเลข 10 ก็มักจะถูกจดจำในตำแหน่งกองกลางตัวรุก หรือ หน้าต่ำแทน อย่างเปเล่,เคนนี่ ดัลกลิช หรือ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ เป็นต้น
ซึ่งในปัจจุบันไม่ได้ใช้วิธีการแบบเดิมเปลี่ยนจากเดิมใช้หมายเลขเพื่อกำหนดผู้เล่นตัวจริง เป็นใช้หมายเลขเพื่อกำหนดชื่อผู้เล่นแทนว่าเป็นใคร (หนึ่งในการตลาดที่เอานักเตะที่ขายได้เข้าทีมเพื่อจะขายเสื้อ) สามารถให้นักฟุตบอลเลือกได้ว่าจะให้หมายเลขอะไรเป็นหมายเลขประจำตัว โดยกำหนดให้เลือกจาก 1-99 แต่อย่างไรก็ตามความสุดยอดของกองหน้าในอดีตส่งผลต่อกองหน้ารายอื่นๆในปัจจุบันหรือเป็นนัยยะว่า หมายเลข 9 นี่แหละคือสุดยอดกองหน้าของทีม
อย่างที่เข้าใจว่าบอลเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การเล่นบอลก็เปลี่ยนไปกองหน้าแบบเพียวๆ อย่างหมายเลข 9 ในอดีตก็ไม่ได้เกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะยุคสมัยของวิธีการเล่นและระบบฟุตบอลเป็นเกมที่สู้กันว่าต้องทำอย่างไรถึงจะชนะ ในอดีตอาจจะเน้นจำนวนการใช้กองหน้าเยอะๆ แล้วมีโอกาสชนะ เพราะไม่ว่าใครก็ยิงประตูได้ ซึ่งหากมองถึงระบบนั้นในอดีตมีกองหน้ามากถึง 4 คน อย่างแผนของทีมบราซิล แต่เมื่อต้องหาวิธีการในการเอาชนะเทคนิคต่างๆ และระบบก็ถูกพัฒนา เป็นการเฉืยนเหลี่ยมในการวางแผน วางเทคนิคกับระบบในการวิวัฒนาการ ว่าจะรับรอสวน หรือครองบอล ต่อบอลเพื่อสร้างจังหวะเกมบุก
กองหน้าหมายเลข 9 ตัวจบสกอร์ยังไงก็มีความสำคัญอยู่ แต่ว่าขึ้นอยู่กับวิธีการใช้เท่านั้น สิ่งสำคัญที่กองหน้าเหล่านี้ต้องมีคือความกระหายในชัยชนะ ต้องการความสำเร็จมีโอกาสต้องจบสกอร์ได้